วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ (Hip fracture in senile) หมายถึงการหักของกระดูกต้นขา (Femur) ที่อยู่บริเวณสะโพกและโคนขาหนีบ (รูป 1) เนื่องจากการหกล้ม สะโพกกระแทกในผู้ป่วยสูงอายุที่มีปัญหากระดูกบางหรือ กระดูกพรุน
ใครมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกสะโพกหัก?
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดของผู้สูงอายุ ที่จะทำให้มีกระดูกสะโพกหัก คือ การมีภาวะกระดูกบาง และกระดูกพรุน นอกจากนั้น ยังได้แก่
- อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสเกิดกระดูกสะโพกหักมากขึ้น จากทั้งการเกิดภาวะกระ ดูกพรุน และปัญหาในการทรงตัวที่ทำให้เกิดการล้มได้ง่าย
- เพศ พบกระดูกสะโพกหักในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนสูงกว่าในผู้ชาย
- มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน เพราะส่งผลให้เกิดกระดูกพรุนได้ง่าย
- ภาวะทุโภชนา กินอาหารไม่มีประโยชน์ หรือขาดอาหาร กระดูกจึงอ่อนแอ หักได้ง่าย
- ไม่ได้ออกกำลังกาย จึงเกิดกระดูกพรุนได้ง่าย
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ใช้ต่อเนื่อง ที่ทำให้เกิดกระดูกพรุน เช่น ยาสเตียรอยด์
- สูบบุหรี่ และ/หรือดื่มสุรา เพราะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้สูง
อาการอย่างไรจึงสงสัยว่ามีกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ?
ผู้ป่วยสูงอายุเมื่อหกล้ม แม้ไม่รุนแรง แล้วไม่สามารถลงน้ำหนักบนขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บ หรือขยับขาแล้วปวดสะโพกหรือโคนขาหนีบ ให้สงสัยไว้ได้เลยว่าอาจมีสะโพกหัก
เมื่อสงสัยผู้สูงอายุอาจมีกระดูกสะโพกหัก ควรดูแลเบื้องต้นอย่างไร?
เมื่อสงสัยว่า อาจมีกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ ให้เริ่มต้นด้วยการค่อยๆจับบริเวณข้อเท้าแล้วค่อยๆโยกขาไปมาเบาๆ ถ้าเจ็บห้ามทำต่อ ให้ตามรถพยาบาลมารับที่บ้านได้เลย ถ้าต้องนำ ส่งโรงพยาบาลเอง ให้หาแผ่นกระดานสอดใต้แผ่นหลังและขา พันธนาการให้สะโพกและขาอยู่นิ่งๆ แล้วนำส่งโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยสามารถนั่งได้ก็อาจอุ้มขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาลได้ การทำแบบนี้มีจุดมุ่งหมายไม่ให้ปวด และไม่ให้กระดูกที่หักเคลื่อนในระหว่างการเคลื่อนย้าย เพื่อนำส่งโรงพยาบาล
เมื่อสงสัยผู้สูงอายุมีกระดูกสะโพกหัก ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การนำส่งแพทย์เร็วช้า แล้วแต่ความสามารถในการนำส่ง และความปวดทุกข์ทรมาน โดย ทั่วไปถ้าผู้ป่วยพอลุกนั่งได้ พอขยับขาไปมาได้ พอถ่ายอุจจาระปัสสาวะได้โดยไม่ปวดสะโพกมากนัก ก็สามารถพามาพบแพทย์ช้าหน่อยได้ แต่ควรภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ แต่โดย ทั่วไปถ้ากระดูกสะโพกหักและเคลื่อน จะปวดมากจนไม่สามารถขยับขาขยับตัวหรือลุกนั่งได้ ผู้ ป่วยจะไม่พยายามถ่ายอุจจาระปัสสาวะเพราะความปวด ก็ควรนำส่งโรงพยาบาลรีบด่วน/ฉุกเฉิน
แพทย์วินิจฉัยกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุได้อย่างไร?
การวินิจฉัยกระดูกสะโพกหัก ต้องอาศัยภาพรังสี (เอกซเรย์ภาพกระดูกสะโพก) เสมอ ถ้าไม่มีภาพรังสี แม้มั่นใจว่ามีกระดูกหัก แต่จะไม่รู้ว่ากระดูกหักเป็นชนิดไหน คดโก่งไปทางไหน อย่างไร จึงไม่รู้ว่าควรรักษาด้วยวิธีใด
แพทย์มีวิธีรักษากระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ อย่างไร?
เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์ศัลยกรรมกระดูก (แพทย์ออร์โธปิดิกส์) จะเป็นผู้ดูแลรักษาโดย ตรง ในการรักษา โดยอาจทำการถ่วงขาข้างที่หักไว้ เพื่อช่วยให้กระดูกไม่หักซ้อนกัน จะได้ติดได้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง, ให้ยาระงับอาการปวด, เจาะเลือดถ่ายภาพรังสีสะโพกและปอด (ดูโรคของปอด เพื่อป้องกันปัญหาจากการใช้ยาสลบในการผ่าตัดรักษากระดูกหัก), ตรวจคลื่นหัว ใจดูว่าสามารถผ่าตัดได้หรือไม่, ทำการปรึกษาแพทย์อายุรกรรม เพื่อให้การดูแลรักษาโรคต่างๆที่ผู้สูงอายุมักจะเป็นอยู่แล้ว, เตรียมผู้ป่วยให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด เพื่อทำการดามกระดูกที่หัก หรือเพื่อเอาหัวกระดูกสะโพกออก และใส่หัวกระดูกสะโพกเทียมแทน ซึ่งการพิจารณาว่าจะเลือกรักษาผ่าตัดด้วยวิธีไหน ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ รักษาเองได้ไหม? ไม่พบแพทย์ได้ไหม?
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ มักทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ซึ่งอาจสูงถึง 50% ภายในหนึ่งปีแรก ถ้าไม่ได้รับการรักษา ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ ถ้าไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวด้วยตนเอง หรือโดยคนอื่นทำให้ ก็จะเกิดแผลกดทับปอดบวม ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ลำไส้ไม่ทำงาน ท้องผูก จึงเป็นข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่จะต้องทำการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยนั่งได้ พลิกตัวได้ จะได้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนดังที่กล่าวมานี้ การรักษาก็จะเป็นการผ่าตัด เพื่อทำการดามกระดูกที่หัก (รูป 2) หรือเพื่อเอาหัวกระดูกสะโพกออก และใส่หัวกระดูกสะโพกเทียมแทน (รูป 3)
ดูแลผู้ป่วยสูงอายุอย่างไรเมื่อได้รับการผ่าตัดดามกระดูกสะโพก?
เนื่องจากกระดูกของผู้สูงอายุมีความบางและพรุน ซึ่งก็เป็นสาเหตุหลักของการที่กระดูกสะ โพกหัก เพราะฉะนั้นแม้เมื่อได้รับการดามด้วยโลหะแล้วก็ตาม ก็มีโอกาสที่จะดามแล้วไม่แน่น ทำให้กระดูกที่หักยังขยับได้ ทำให้ไม่หายปวด และอาจต้องทำการผ่าแก้ไขใหม่ ด้วยเหตุนี้ บ่อยครั้งกระดูกสะโพกหักจะถูกผ่าตัดด้วยการเปลี่ยนหัวกระดูกสะโพกเทียม และยึดให้แน่นด้วยกาวกระดูก (Bone cement) หลังผ่าตัด แพทย์ผู้ผ่าตัดจะเป็นผู้แนะนำว่า ต้องดูแลผู้ป่วยอย่าง ไร ขอให้ญาติกรุณาถามคุณหมอให้ละเอียด และทำตามนั้นอย่างเคร่งครัด
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ กี่วันกระดูกจึงติด และดูแลผู้ป่วยอย่างไร? ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
เรื่องที่ว่ากระดูกจะติดเมื่อไร ขอให้ถามแพทย์ผู้ให้การผ่าตัดรักษา เพราะจะต่างกันมากในผู้ ป่วยแต่ละคน ขึ้นกับอายุ และสุขภาพของผู้ป่วย
ในการดูแลผู้ป่วยก็เช่นเดียวกัน ควรสอบถามจากแพทย์ พยาบาล ผู้รักษาโดยตรง เพราะจะแตกต่างกันมากในผู้ป่วยแต่ละราย จากอายุและปัญหาสุภาพของผู้ป่วย ซึ่งคำถามที่สำคัญที่ลูก หลานควรถามแพทย์เพื่อให้เข้าใจ เพื่อการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม เช่น
- จับพลิกตะแคงได้ไหม ควรทำบ่อยแค่ไหน
- จับขึ้นมานั่งได้ไหม ควรทำบ่อยแค่ไหน
- จับขึ้นมายืนได้ไหม ควรทำบ่อยแค่ไหน
- พยุงเดินได้ไหม ควรทำบ่อยแค่ไหน
- เดินเองด้วยเครื่องพยุงตัวสี่ขา (Walker) ได้หรือยัง ควรทำบ่อยแค่ไหน
- ลงน้ำหนักขาข้างที่หักได้ไหม เมื่อไร และ
- อื่นๆ ที่ผู้ป่วยและญาติกังวล
อนึ่ง ควรพบแพทย์ก่อนนัด เมื่อ ผู้ป่วยมีอาการผิดไปจากเดิม, ปวดสะโพกด้านหักมากขึ้น, ปวดขาด้านหักมากขึ้น, ขาด้านหักบวม หรือมีลักษณะอักเสบ (เช่น บวมแดง ปวด มีหนองจากแผลผ่าตัด), มีไข้, มีปัญหาทางการขับถ่าย, มีแผลกดทับ, และ/หรือ เมื่อผู้ป่วย/ญาติกังวลในอาการ
กระดูกสะโพกหักมีการพยากรณ์โรคและผลข้างเคียงอย่างไร?
กระดูกสะโพกหัก สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานและเป็นเหตุให้พิการได้ จัดเป็นกระดูก หักที่รุนแรง เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหว นั่ง ยืน เดิน นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนนา นาประการและอาจเสียชีวิตในที่สุดได้
ผลข้างเคียงที่พบได้เสมอจากกระดูกสะโพกหัก คือ การขาดคุณภาพชีวิต จากการเดินไม่ ได้ ช่วยตัวเองได้น้อย ต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลจากผู้อื่น, มักเกิดแผลกดทับโดยเฉพาะบริ เวณก้นและสะโพก, และมักมีการติดเชื้อจากการที่ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวได้น้อย โดยเฉพาะการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ (เช่น ปอดบวม) และในระบบทางเดินปัสสาวะ (โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ)
ป้องกันกระดูกสะโพกหักได้อย่างไร?
การป้องกันกระดูกสะโพกหักที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกบาง ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระดูกหัก (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง โรคกระดูกพรุน กระดูกบาง เพื่อการ เข้าใจ โรค การป้องกัน และการดูแลตนเองได้จากเว็บ haamor.com ในบทความเรื่อง โรคกระ ดูกพรุน โรคกระดูกบาง) และเมื่อเป็นผู้สูงอายุ การดูแล ป้องกันกระดูกสะโพกหักเพิ่มเติม คือ
- ทำบ้านให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ ไม่ให้มี หมา หรือ แมวภายในบ้านหรือบริเวณบ้านเพราะจะเป็นสาเหตุให้สะดุดล้มได้ง่าย
- ทำบ้านให้แห้ง ไม่มีส่วนลื่น
- ทำบ้านไม่ให้มีพรมเช็ดเท้า สิ่งกีดขวาง
- ห้องน้ำ ควรต้องแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก ส่วนเปียกต้องไม่ลื่น นั่งอาบได้ดีที่สุด มีราวจับเกาะเวลาลุกขึ้น
สรุป
ผู้สูงอายุทุกคนจะมีกระดูกบางลงหรือกระดูกพรุนตามวัย มากน้อยต่างกันก็เพียงเล็กน้อย เมื่อล้ม กระดูกก็มักจะหัก แม้ไม่ได้ล้มแรง มีอยู่สี่แห่งที่กระดูกมักจะบางมากๆ จนล้มทีไรจะหักทุกที คือที่กระดูกสะโพก กระดูกสันหลัง กระดูกข้อมือ และกระดูกหัวไหล่
กระดูกหัก สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานและเป็นเหตุให้พิการได้ แต่สำหรับกระดูกหักที่สะ โพก มักทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหว นั่ง ยืน เดิน นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนนานาประการและอาจเสียชีวิตในที่สุดได้ ผมขอฝากข้อคิดสำหรับลูกหลานไว้ที่นี้ว่า
- ทำบ้านให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ ไม่ให้มีหมาหรือแมวภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน
- ทำบ้านให้แห้ง ไม่มีส่วนลื่น
- ทำบ้านไม่ให้มีพรมเช็ดเท้า หรือสิ่งกีดขวาง
- ห้องน้ำ แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก ส่วนเปียกต้องไม่ลื่น นั่งอาบได้ดีที่สุด มีราวจับเกาะเวลาลุกขึ้น
- ข้อนี้โปรดพิจารณาให้ดีว่า จะยอมอนุญาตให้แพทย์ผ่าตัดดีหรือไม่ เพราะการผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากผู้ป่วยมักจะมีหลายโรค ทั้ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบา หวาน โรคความดันโลหิตสูง ทำให้แพทย์ไม่กล้าผ่าตัด เมื่อไม่กล้าผ่าตัดเพราะญาติยอม รับความเสี่ยงไม่ได้ ผู้สูงอายุที่มีกระดูกสะโพกหัก ก็จะเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาก โปรดคุยปรึกษาหารือกับแพทย์ผู้ให้การรักษาให้ถี่ถ้วน และรีบตัดสินใจเสมอ
รูป 1. ภาพรังสีกระดูกสะโพกซ้ายหัก
รูป 2. ภาพรังสีกระดูกสะโพกซ้ายหัก รักษาด้วย การผ่าตัดดามกระดูก
รูป 3. ภาพรังสีแสดงให้เห็นกระดูกสะโพกขวาหัก และได้รับการผ่าตัดใส่หัวกระดูกสะโพกเทียม
เปิดโมเดลโรงพยาบาลแพร่ จัดระบบผ่าตัดเร็ว Fast track กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ ช่วยลดอัตราโรคแทรกซ้อนได้ถึง 10 เท่า แพทย์ ระบุ 1 ใน 3ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการผ่าตัด จะเสียชีวิตภายใน 1 ปี
นพ.ลักษณ์ ชุติธรรมานันท์
นพ.ลักษณ์ ชุติธรรมานันท์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลแพร่ จ.แพร่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้มีคนไข้ในกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนไข้กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเทียบเคียงจากอดีตที่พบเพียงวันละ 1 ราย หรือวันเว้นวัน ปัจจุบันกลับพบไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ราย
นพ.ลักษณ์ กล่าวว่า คนไข้กระดูกสะโพกหักจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุด โดยประเทศอังกฤษซึ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนประเทศไทยได้ตั้งกลุ่มศึกษาเรื่องนี้โดยตรง และพบว่าหากไม่รีบรักษาคนไข้กระดูกสะโพกหัก จะส่งผลต่อภาระงบประมาณและความทุกข์ทรมานแก่คนไข้และญาติ ที่สำคัญคือคนไข้มีโอกาสพิการและอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ ผลการวิจัยของประเทศอังกฤษพบว่า วิธีที่รักษากระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุที่ดีที่สุดคือการผ่าตัด ที่สำคัญคือจะต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุดคือภายใน 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะหากผ่าตัดหลังจากช่วงเวลานั้นจะมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนกับคนไข้จำนวนมาก อาทิ ปอดบวม กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ ข้อติดข้อยึด เดินไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีแผลกดทับ และนำไปสู่การเสียชีวิต
“มีงานวิจัยระบุว่าถ้าคนไข้ได้รับการผ่าตัดช้าจะมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่าคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดเร็วถึง 10 เท่า และยังพบอีกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการผ่าตัดจำนวน 10% จะเสียชีวิตภายใน 1 เดือน และอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด ภายในระยะเวลา 1 ปี” นพ.ลักษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีการศึกษาต่อไปอีกว่าหากคนไข้เป็นผู้สูงอายุมากๆ และมีโรคแทรกซ้อนเยอะ ยิ่งต้องกระตุ้นให้ได้รับการผ่าตัดให้เร็วขึ้นอีก คือภายใน 6 ชั่วโมงหลังจากกระดูกสะโพกหัก ซึ่งจะลดอัตราการเสียชีวิตได้มากขึ้นไปอีก ฉะนั้นแนวโน้มหลังจากนี้คือจะผ่าตัดเร็วขึ้น
นพ.ลักษณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อประเทศอังกฤษศึกษาและออกแบบแนวทางการรักษามาแล้ว โรงพยาบาลแพร่จึงได้นำโมเดลเดียวกันนี้มาใช้ โดยได้จัดระบบ Fast track ให้กับผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหักให้ได้รับการผ่าตัดอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งจากการดำเนินโครงการมาระยะเวลาร่วม 10 ปี พบว่าสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ที่มีโรคแทรกซ้อนได้จำนวนมาก
“การรักษาของประเทศไทยที่ผ่านมายังไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ใช้วิธีดึงขาถ่วงไว้ บางครั้งก็ไม่ผ่าตัด หรือแพทย์เองก็ไม่เชียร์คนไข้ให้ผ่าตัด ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ทำให้บาดเจ็บเนื้อเยื่อน้อย ใช้เวลาผ่าไม่เกิน 30 นาที หรือบางรายเพียง 12-15 นาที เพราะเป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อน และแพทย์กระดูกทุกรายมีความสามารถในด้านนี้” นพ.ลักษณ์ กล่าว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินโครงการ Fast track hip (กระดูกสะโพก) ของโรงพยาบาลแพร่ เริ่มจากการประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลชุมชนที่กระจายตัวอยู่ใน จ.แพร่ เมื่อโรงพยาบาลชุมชนพบคนไข้และวินิจฉัยแล้วว่าคนไข้กระดูกสะโพกหัก แพทย์ก็จะอธิบายถึงความเสี่ยง แนวทางการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ข้อดีข้อเสียของการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด
หลังจากนั้นเมื่อคนไข้และญาติยินยอมผ่าตัด ทางโรงพยาบาลชุมชนก็จะเตรียมตัวคนไข้ให้พร้อมผ่าตัดตั้งแต่ต้นทาง เช่น ให้งดน้ำงดอาหาร จากนั้นก็จะส่งต่อคนไข้มายังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแพร่ ซึ่งทางโรงพยาบาลแพร่ก็จะมีกระบวนการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ไปทำการเจาะตรวจ เอ็กซเรย์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด
ทั้งนี้ เมื่อเตรียมความพร้อมครบถ้วน ทางห้องฉุกเฉินก็จะส่งตัวคนไข้มาที่ตึกเพื่อรอการผ่าตัด ที่ตึกก็จะมีการเตรียมพร้อมห้องพักเพื่อป้องกันแผลกดทับ จากนั้นก็เข้าสู่ระบบการผ่าตัดให้เร็วที่สุด ซึ่งหากผลการประเมินยืนยันว่าคนไข้พร้อมผ่าตัด ก็จะได้รับการผ่าตัดภายในคืนเดียวกันนั้นเลย และเช้าวันรุ่งขึ้นแพทย์ก็จะไปจับคนไข้ลุก นั่ง ยืน เดิน และให้กลับบ้านได้ภายในเที่ยงวันของวันถัดมา
“หากปล่อยเอาไว้หลายวัน ผู้สูงอายุจะกล้ามเนื้ออ่อนแรงและฟื้นตัวช้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คนไข้ 80-90% จะได้รับการผ่าตัดภายในคืนที่ส่งตัวมา และตอนเช้าก็จะสามารถเดินได้ และกลับบ้านได้” นพ.ลักษณ์ กล่าว
หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ กล่าวอีกว่า การทำงานของโรงพยาบาลแพร่จะทำงานเป็นทีม คือใช้งานวิชาการและหลักฐานเชิงประจักษ์เป็นตัวนำ ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายก็จะเข้าใจตรงกันว่ากระดูกสะโพกหักเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ ทั้งแพทย์ผู้ผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ รวมถึงอายุรแพทย์ที่ร่วมประเมินคนไข้ในรายที่มีความซับซ้อน จะรู้สึกร่วมและภูมิใจที่ได้รักษาคนไข้
“เมื่อผมผ่าตัดเสร็จแล้วก็จะรายงานทุกคนให้ทราบทั้งหมดว่าคนไข้เดินกลับบ้านได้แล้วนะ ทั้งคุณหมอดมยาและอายุรแพทย์ ก็จะรับรู้ทุกครั้ง เขาก็ดีใจว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สามารถช่วยเหลือคนไข้ได้แล้ว" นพ.ลักษณ์ กล่าว
นพ.ลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในประเทศไทยมีคนนำโมเดลนี้มาใช้น้อยมาก ที่ทำจริงจังก็มีเพียงโรงพยาบาลเอกชนที่มีจุดขายคือการให้บริการที่รวดเร็ว อย่างโรงพยาบาลกรุงเทพก็เพิ่งทำเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ส่วนตัวคิดว่าโรงพยาบาลของรัฐอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการเช่นเดียวกันนี้ได้ เพียงแค่ตระหนักและเห็นความสำคัญ ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่โรงพยาบาลแพร่เป็นโรงพยาบาลของรัฐที่รักษาคนไข้ฟรีตามสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง และได้ช่วยเหลือคนไข้มาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี
สมัครสมาชิก:
บทความ
(Atom)
รายการบล็อกของฉัน
เมนูเว็บไซต์
- หน้าแรก
- แทมโป้
- ดับเบิ้ลแม็ก
- ซุปเปอร์ดีแม็ก
- เทอร์โบแม็ก
- บีแอล99
- ดับเบิ้ลแม็กพรีเมี่ยม
- กาแฟวันแฟน
- ไบโอวัน
- อาหารเสริมชาย
- เรซฮอร์ซ
- กาแฟวันแมน
- แม็กม่า-ทูอัพ
- ซุปเปอร์ดีแม็กพลัส
- ยาบีแอล
- ซุปเปอร์แม็ก
- เทอร์ดบแม็กแม็กม่า
- ซูปเปอร์ดีแม็กซ์
- ดับเบิ้ลแม็กซ์
- ดับเบิ้ลแม็กพลัส
- ทวนทอง99
- สาหร่ายแดง
- ไบโอแอสติน
- แอสต้าเอ็กซ์
- ชาเจสันวินเตอร์
- เรซฮอร์ส
Blogroll
Archives
Block
Enter Block content here...
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Etiam pharetra, tellus sit amet congue vulputate, nisi erat iaculis nibh, vitae feugiat sapien ante eget mauris.
New Block
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
ค้นหาสิ่งต่างๆในเว็บนี้
แทมโป้ Tampo อาหารเสริมสำหรับชายไทยทั่วประเทศ. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
บทความที่ได้รับความนิยม
-
กระดูกสะโพกหักเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญปัญหาหนึ่งในผู้ป่วยสูงอายุ การผ่าตัดถือ เป็นวิธีการรักษาหนึ่งที่เหมาะสมและจำเป็นในผู้ป่วยเหล่านี้ การเ...
-
เปิดโมเดลโรงพยาบาลแพร่ จัดระบบผ่าตัดเร็ว Fast track กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ ช่วยลดอัตราโรคแทรกซ้อนได้ถึง 10 เท่า แพทย์ ระบุ 1 ใน 3ของผู้...
เกี่ยวกับฉัน
โพสต์แนะนำ
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ (Hip Fractures in Senile)
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ (Hip fracture in senile) หมายถึงการหักของกระดูกต้นขา (Femur) ที่อยู่บริเวณสะโพกและโคนขาหนีบ (รูป 1) เนื่องจากกา...